MBK Group

TH EN
Job Opportunity  Home

CSR Activities

 

เอ็ม บี เค กรุ๊ป สนับสนุนการจัดการขยะล้นเมืองอย่างสร้างสรรค์ จัดเวิร์คช็อป ‘Start Green : DIY สวนผักแนวตั้ง’ ต่อยอดโครงการ REAL RECYCLER

 Back

สังคมเมืองเป็นสังคมที่มีการใช้บรรจุภัณฑ์จำนวนมากซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเภทใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง เพราะนอกจากใช้เพื่อห่อหุ้มเพื่อป้องกันความเสียหายต่อผลิตภัณฑ์แล้วยังช่วยกระตุ้นการซื้อได้อีกด้วย ซึ่งการแข่งขันกันออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามเพื่อส่งเสริมการขายนั้น ก็ยิ่งทำให้ปริมาณขยะในเมืองเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ซึ่งบรรจุภัณฑ์บางอย่างนั้นอาจย่อยสลายได้ง่าย แต่บางอย่างต้องอาศัยเวลาหลายสิบหลายร้อยปีกว่าจะย่อยสลาย จากสถิติของสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร พบว่าปริมาณขยะมูลฝอยในพื้นที่เขตปทุมวันเฉพาะช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมามีปริมาณกว่า 8,778 ตัน ด้วยเหตุนี้ เอ็ม บี เค กรุ๊ป จึงนำทีมผู้บริหารและพนักงานจิตอาสาจัดกิจกรรมเพื่อจัดการขยะประเภทบรรจุภัณฑ์อย่างสร้างสรรค์ภายใต้ชื่อ ‘Start Green : DIY สวนผักแนวตั้ง’ เวิร์คช็อปปลูกผักจากบรรจุภัณฑ์เหลือใช้ โดยมีนายนคร ลิมปคุปตถาวร หรือ ปริ๊นซ์ เจ้าชายผัก ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผักปลอดสารพิษ พร้อมด้วย นายธนวัติ มณีนาวา หรือ เป๋ ทำดะ นักออกแบบผลงานจากสิ่งของเหลือใช้ มาร่วมเนรมิตสวนผักแนวตั้ง ให้แก่ชุมชนโดยรอบในเขตปทุมวัน ณ ลานกีฬาจารุเมือง

นางสาวกนกรัตน์ จุฑานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบความสุขให้แก่ผู้บริโภคผ่านผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท ตามแนวคิด 'ความสุขของทุกวัย' ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย พร้อมดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากอดีตจนถึงปัจจุบัน เอ็ม บี เค กรุ๊ป มีความพยายามในการลดปริมาณการใช้พลังงาน และของเสียจากกระบวนการต่างๆ ในการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ ยังดำเนินกิจกรรมด้านการจัดการขยะอย่างสร้างสรรค์ เพื่อสนับสนุนแผนแม่บทการบริหารจัดการขยะมูลฝอยของรัฐบาลที่ต้องการลดการเกิดขยะจากแหล่งกำเนิด และหวังเป็นอีกหนึ่งพลังในการช่วยลดการสร้างมลภาวะให้แก่สิ่งแวดล้อม"

"กิจกรรมเวิร์คช็อป 'Start Green : DIY สวนผักแนวตั้ง' นี้ เป็นหนึ่งในกิจกรรมต่อเนื่องภายใต้ โครงการ 'REAL RECYCLER รักษ์โลกจริง เลิกทิ้ง เลิกเท' ซึ่งในปีที่แล้ว เราได้ปลุกกระแสชุมชนและสังคมให้ตระหนักถึงความสำคัญของการคัดแยกขยะ พร้อมทั้งจุดประกายไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ในการนำขยะกลับมาใช้ใหม่ ในปีนี้ เราจึงสานต่อโครงการให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น โดยในไตรมาสแรกของปี เราได้ให้ความรู้และสอนชุมชนในการนำบรรจุภัณฑ์เหลือใช้ หรือของเก่าที่มีอยู่ภายในบ้านมาดัดแปลง เพื่อให้ชุมชนเห็นว่าของเหลือใช้ใกล้ตัวสามารถเปลี่ยนเป็นสิ่งที่มีค่าได้ด้วยไอเดีย" นางสาวกนกรัตน์ กล่าวเสริม

ด้าน นางมรกต สนิทธางกูล ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กล่าวว่า "กิจกรรมนี้เป็นการส่งเสริมและให้ความรู้กับชุมชนในการจัดการขยะอย่างเป็นรูปธรรม โดยเราสามารถนำภาชนะที่เหลือใช้ในบ้านแทบทุกอย่าง อาทิ กรวยกรอกน้ำ ขวดเครื่องปรุง และขวดน้ำพลาสติกมาปรับใช้เป็นภาชนะปลูกผักได้ซึ่งมีประโยชน์ในหลายประการ ทั้งเป็นการลดค่าใช้จ่ายในด้านการเพาะปลูก และเป็นการลดขยะภายในบ้านได้อย่างสร้างสรรค์ นอกจากนี้ ชุมชนในเขตปทุมวันนั้นมีพื้นที่สีเขียวค่อนข้างน้อย การที่เราสามารถปลูกต้นไม้และปลูกผักในบ้านที่มีพื้นที่จำกัดได้ จึงเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในชุมชน หากทุกบ้านทำเหมือนๆ กัน ก็จะส่งผลดีในวงกว้างในการช่วยลดภาวะโลกร้อนและลดขยะมูลฝอย ซึ่งเป็นนโยบายของกรุงเทพมหานครด้วย"

นายธนวัติ มณีนาวา หรือ เป๋ ทำ-ดะ นักออกแบบผลงานจากสิ่งของเหลือใช้รอบตัว เจ้าของเพจ TUM:DA กล่าวว่า "การสร้างสรรค์ผลงานขึ้นจากของเหลือใช้ มีเป้าหมายหลักเพื่อลดขยะ ซึ่งการจัดการขยะที่ดีที่สุดคือการใส่ความคิดลงไป สามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ จากขยะใกล้ตัว พวกขวดน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนใช้และเหลือทิ้งเป็นประจำ มาทำเป็นอุปกรณ์สำหรับปลูกผักสวนครัว เป็นการใส่ไอเดียเปลี่ยนขยะให้เป็นของใหม่ ยิ่งถ้าใส่ความช่างสังเกตเข้าไปก็จะสามารถเพิ่มประโยชน์ให้สิ่งประดิษฐ์ได้ เช่น บ้านที่มีพื้นที่แคบ ก็ประยุกต์เป็นแปลงผักแนวตั้งให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตชุมชนเมืองที่มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัดได้"

นายนคร ลิมปคุปตถาวร หรือ ปริ๊นซ์ เจ้าชายผัก ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผักปลอดสารพิษ กล่าวว่า "การปลูกผักกินเอง นอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังได้อาหารที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ รู้จักที่มา รู้กระบวนการผลิต และได้ผักปลอดสารพิษที่สดเหมือนมีซูเปอร์มาร์เก็ตอยู่ในบ้าน งานปลูกผักเป็นงานที่ทำให้หลายคนหันมาดำเนินชีวิตในแบบพึ่งพาตนเอง ผมคิดว่าความสุขอย่างยั่งยืน เกิดขึ้นได้จากพื้นที่สีเขียวเล็กๆ ส่วนตัวในบ้าน"

ขณะที่ นางสมบูรณ์ สาลีผล ประธานชุมชนแฟลต สน.ปทุมวัน กล่าวว่า "กิจกรรมครั้งนี้เป็นการนำวัสดุเหลือใช้มาทำให้เกิดประโยชน์ ช่วยลดปริมาณขยะในครัวเรือนได้จริง เราจะนำความรู้ที่ได้ไปสานต่อเพื่อลดปริมาณขยะในชุมชน และเรายังได้ผักปลอดสารพิษไว้รับประทานในครอบครัวด้วย ขอขอบคุณบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ที่จัดโครงการดีๆ ให้กับชุมชน"

"เอ็ม บี เค กรุ๊ป หวังเป็นอย่างยิ่งว่าความรู้จากงานนี้จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง ต่อ ชุมชน และสังคม ซึ่งตลอดปี 2560 นี้ เรายังคงสานต่อกิจกรรมดีๆ ต่อเนื่อง โดยเน้นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสรรค์ขยะไร้ค่าให้กลับมาเป็นของใช้ที่มีดีไซน์สวยงามและมีประโยชน์ต่อสังคม" นางสาวกนกรัตน์ กล่าวปิดท้าย